เขื่อนภูมิพล เกิดขึ้นจากความต้องการแก้ปัญหาเรื่องทรัพยากรที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการ โดยเฉพาะเรื่องการขาดแคลนพลังงานไฟฟ้าและทรัพยากรน้ำในหลายจังหวัด
โดยเริ่มจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงสนพระราชหฤทัยในเรื่องของวิถีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนในพื้นที่ห่างไกล เพราะส่วนใหญ่แล้ว ประชาชนในต่างจังหวัดจะประกอบอาชีพเกษตรกรเป็นหลัก อันเป็นอาชีพสำคัญของประเทศไทยที่มีทรัพยากรดินที่อุดมสมบูรณ์
ซึ่งพระองค์ทรงทราบถึง ปัญหาในการทำเกษตร นั่นคือเรื่องของน้ำ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการหล่อเลี้ยงผลผลิตการเพาะปลูก จึงเริ่มมีพระราชดำริเกี่ยวกับระบบการจัดการน้ำแก่พื้นที่เหล่านั้น
รวมถึงปัญหาสำคัญการขาดแคลนพลังงานไฟฟ้าในหลายจังหวัดของประเทศ ที่เริ่มจากภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 โรงจักรไฟฟ้าถูกระเบิดเสียหาย ในขณะเดียวกัน ความต้องการใช้ไฟฟ้ามีมากขึ้น แม้รัฐบาลจะพยายามซ่อมแซมและติดตั้งเครื่องเพิ่มขึ้นแต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ
จึงเริ่มมีแนวคิดโครงการผลิตไฟฟ้า ซึ่งเมื่อพิจารณาแล้วเห็นว่า ประเทศไทยมีแม่น้ำหลายสาย ถ้าสามารถสร้างเขื่อนขนาดใหญ่และโรงไฟฟ้าขวางทางแม่น้ำได้ จะเป็นการประหยัด กว่าการสร้างโรงไฟฟ้ากังหันน้ำหรือเครื่องยนต์ดีเซล
นอกจากนี้ ยังสามารถแก้ปัญหาความขาดแคลนทรัพยากรน้ำ เพราะเขื่อนสามารถควบคุมและบริหารการระบายน้ำได้อย่างเหมาะสม จึงเริ่มเกิดแนวคิดโรงไฟฟ้าพลังน้ำ
PROJECT
โครงการ : เขื่อนอเนกประสงค์ภูมิพล Bhumibol Dam
สถานที่ตั้ง : เขาแก้ว อำเภอสามเงา จังหวัดตาก
พิกัด : 17.265°N 98.9°E
ขนาด : เป็นเขื่อนคอนกรีต สูง 154 ม. ยาว 486 ม. อาณาเขตรับน้ำ 26,386 ตร.กม.
ความจุ : 13,462 ล้าน ลบ.ม. ระดับสันเขื่อน + 261.00 ร.ท.ก. ระดับเก็บกักสูงสุด 318 ตร.กม. ความจุที่พักตะกอน 3,600 ล้าน ลบ.ม.
FACT
งบประมาณ : 2,250 ลบ. เป็นเงินกู้จากธนาคารโลก 66 ล้านเหรียญสหรัฐ ร่วมกับเงินงบประมาณ
ประโยชน์หลัก : กักเก็บน้ำและผลิตกระแสไฟฟ้าจำหน่ายให้แก่ประชาชน ตั้งแต่ภาคเหนือและภาคกลางลงไปถึงจังหวัดเพชรบุรี รวม 36 จังหวัด
หน่วยงานควบคุมการก่อสร้าง : รัฐวิสาหกิจมีชื่อว่า "การไฟฟ้ายันฮี" ซึ่งต่อมาได้ควบรวมกับรัฐวิสาหกิจ "การลิกไนต์" และ "การไฟฟ้าตะวันออกเฉียงเหนือ" เป็นการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)
IMPORTANT DAYS
25 กรกฎาคม 2500 ได้รับพระราชทานบรมราชานุญาต ให้อัญเชิญพระปรมาภิไธยมาเป็นมงคล นามของเขื่อนว่า “เขื่อนภูมิพล”
31 กรกฎาคม 2501 ลงนามสัญญาจ้างเหมาก่อสร้างเขื่อนภูมิพลกับบริษัท Brown & Root, S.A. and Utah International Inc.
24 มิถุนายน 2504 เสด็จพระราชดำเนินไปทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์เขื่อนภูมิพล
17 พฤษภาคม 2507 เสด็จพระราชดำเนินไปทรงประกอบพิธีเปิดเขื่อนภูมิพล
โดยโครงการไฟฟ้าพลังน้ำนี้ มีมาตั้งแต่รัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 และเริ่มมีการวางแผนถึงตำแหน่งที่ตั้งของโรงงาน บริเวณแม่น้ำสายต่างๆ
แต่โครงการได้หยุดชะงักไป เพราะภาวะทางเศรษฐกิจภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 และความผันผวนทางการเมือง
ต่อมาในสมัยจอมพล ป.พิบูลสงคราม ได้เสนอเรื่องการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานน้ำอีกครั้ง และเลือกแม่น้ำแม่กลองเป็นอันดับแรก เพราะอยู่ใกล้พระนครและธนบุรี
รวมถึงสภาพบริเวณโดยรอบที่เหมาะสมในการสร้างเขื่อน แต่ได้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ขึ้น โครงการจึงต้องระงับไปก่อน
ต่อมา ได้นำเอาโครงการก่อสร้างไฟฟ้าพลังน้ำแก่งเรียง จังหวัดกาญจนบุรี มาพิจารณาอีกและจัดทำรายงานเสนอธนาคารโลกเพื่อพิจารณาขอกู้เงิน แต่มีข้อมูลไม่เพียงพอให้ธนาคารโลกได้พิจารณา
จึงให้กรมชลประทานเป็นผู้ดำเนินการเพื่อให้ได้รายละเอียดครบถ้วนเพียงพอและเดินทางไปสำรวจและศึกษาพื้นที่ทางภาคเหนือเพราะกรมชลประทานมีข้อมูลเกี่ยวกับแม่น้ำปิง วัง ยม และน่าน
ภายหลังการพิจารณาข้อมูลทั้งหมดอย่างรอบด้าน จึงตัดสินใจสร้างเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำที่ แม่น้ำปิงที่เขายันฮี จังหวัดตาก เพราะสามารถผลิตกำลังไฟฟ้าได้เพียงพอแก่ความต้องการ รวมถึงจังหวัดอื่นๆในภาคเหนือและภาคกลางของประเทศได้
เขื่อนภูมิพล เป็นเขื่อนคอนกรีตโค้งเพียงแห่งเดียวในประเทศไทยและเอเชียอาคเนย์ อีกทั้งยัง เป็นเขื่อนอเนกประสงค์แห่งแรกของประเทศไทย เดิมชื่อ “เขื่อนยันฮี”
ต่อมาเมื่อวันที่ 25 กรกฏาคม 2500 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชได้พระราชทานพระปรมาภิไธย เปลี่ยนชื่อเขื่อนเป็น “เขื่อนภูมิพล” เขื่อนภูมิพลมีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 8 ของโลก สร้างปิดกั้นลำน้ำปิง ที่บริเวณเขาแก้ว อำเภอสามเงา จังหวัดตาก
อ่างเก็บน้ำสามารถรองรับน้ำได้สูงสุด 13,462 ล้านลูกบาศก์เมตร เนื้อที่ผิวน้ำประมาณ 300 ตร.กม. ความยาวของลำน้ำจากเขื่อนถึงอำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ เป็นระยะทาง 207 กม.
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงเสด็จทอดพระเนตรระบบการทำงานของเขื่อนภูมิพล
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชได้เสด็จพระราชดำเนินทรงวางศิลาฤกษ์การก่อสร้าง เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2504 ด้วยพระองค์เอง
การก่อสร้างในระยะแรกประกอบด้วยงานก่อสร้างตัวเขื่อน ระบบส่งไฟฟ้า และอาคารโรงไฟฟ้า ซึ่งได้ติดตั้งเครื่องกำเนิดไฟฟ้าเครื่องที่ 1 - 2 กำลังผลิตเครื่องละ 70,000 กิโลวัตต์ สามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าได้ เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม และ 15 มิถุนายน 2507 ตามลำดับ
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชได้เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดเขื่อน เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2507 ต่อมาได้มีการติดตั้งเครื่องกำเนิดไฟฟ้าเครื่องที่ 3 - 6 กำลังผลิตเครื่องละ 70,000 กิโลวัตต์
โดยเครื่องที่ 3 สามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าได้ใน วันที่ 11 พฤษภาคม, 9 สิงหาคม 2510, 25 ตุลาคม และวันที่ 19 สิงหาคม 2512 ตามลำดับ และเครื่องที่ 7 กำลังผลิต 115,000 กิโลวัตต์ สามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าได้ในวันที่ 18 ตุลาคม 2525
เขื่อนภูมิพลในขณะการดำเนินการก่อสร้างใกล้แล้วเสร็จ
เพื่อเป็นการยืดอายุการใช้งานของเครื่องกำเนิดไฟฟ้าออกไป ในปี พ.ศ.2531 การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยจึงได้ทำการปรับปรุงเครื่องกำเนิดไฟฟ้า
เครื่องที่ 1 - 2 ทำให้มีพลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีกเครื่องละ 6,300 กิโลวัตต์ สามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าได้ เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2535 และพฤศจิกายน 2536 ตามลำดับ
ส่วนการปรับปรุงเครื่องเครื่องที่ 3 - 4 มีการปรับปรุงกำลังผลิตเท่ากันกับเครื่อง ที่ 1 - 2 เมื่อแล้วเสร็จสามารถจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบได้เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ และสิงหาคม 2540 ตามลำดับ
นอกจากนี้ ในปี 2534 กฟผ.ได้ติดตั้งเครื่องกำเนิดไฟฟ้าเครื่องที่ 8 แบบสูบกลับ ขนาดกำลังผลิต 171,000 กิโลวัตต์ และก่อสร้างเขื่อนแม่ปิงตอนล่าง สามารถจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบได้ในเดือน มกราคม 2539
ทำให้โรงไฟฟ้าพลังน้ำ เขื่อนภูมิพล มีกำลังการผลิตติดตั้งทั้งสิ้น 779.2 เมกกะวัตต์ เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2545
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงทอดพระเนตรระบบการจัดการน้ำในเขื่อน