SENA จับมือพันธมิตรญี่ปุ่น
ร่วมทุน ฮันคิว เรียลตี้ ชู Geo fit+ ลุยตลาดอสังหาฯ
- โครงการร่วมทุนแรก เป็นคอนโดมิเนียมใหม่ Niche Pride เตาปูน - อินเตอร์เชนจ์ มูลค่าโครงการกว่า 3,000 – 4,000 ลบ.
- โดยจะพัฒนาเป็นอาคาร High Rise สูง 40 ชั้น 700-800 ยูนิต บนพื้นที่โครงการกว่า 3 ไร่
- โครงการ Niche MONO สุขุมวิท-แบริ่ง มูลค่าโครงการ 1,067 ลบ. เป็นอาคาร High Rise สูง 33 ชั้น 1,275 ยูนิต บนพื้นที่ 4 ไร่เศษ เพียง 250 ม.จากสถานีแบริ่ง
Niche MONO สุขุมวิท-แบริ่ง
ใครเป็นใครกันบ้าง?
บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA
เสนาฯเข้าสู่วงการอสังหาริมทรัพย์ตั้งแต่ปี 2524 เริ่มธุรกิจจำหน่ายและติดตั้งวัสดุก่อสร้างประเภทไม้ ก่อนที่จะเข้ามาในตลาดบ้านเดี่ยว ทาวเฮ้าส์ อาคารพาณิชย์ และเปิดตัวคอนโดมิเนียมโครงการแรกภายใต้ชื่อ The Niche ในปี 2550 จดทะเบียนเป็นบริษัทมหาชนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยปี 2552 นอกจากนี้เสนายังมีอพาร์ทเมนต์และโกดังให้เช่า รวมถึงยังมีสนามกอล์ฟ ศูนย์การค้าเสนาเฟส และธุรกิจเกี่ยวกับพลังงานแสงอาทิตย์แบบครบวงจรบริษัท ฮันคิว เรียลตี้ (ประเทศญี่ปุ่น) จำกัด
ฮันคิว เรียลตี้ มีความเชี่ยวชาญด้านการขาย ให้เช่า คอนโดมิเนียม และให้คำปรึกษาในด้านอสังหาริมทรัพย์ ฐานหลักอยู่ในแถบคันไซ ได้แก่ โอซาก้า โกเบ และเกียวโต ในกลุ่มบริษัท ฮันยู ฮันชิน โฮลดิ้ง กรุ๊ป เป็นกลุ่มทุนขนาดใหญ่ในภูมิภาคคันไซ ดำเนินธุรกิจหลากหลาย ทั้งรถไฟฟ้าใต้ดิน ศูนย์การค้า โรงแรม โรงละคร สนามเบสบอล ฮันคิว เรียลตี้มีผลงานการก่อสร้างบ้านพักอยู่อาศัยกว่า 60,000 ยูนิต และคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ Geo กว่า 20,000 ยูนิตเส้นทางรถไฟฟ้าของกลุ่มบริษัท ฮันยู ฮันชิน โฮลดิ้ง กรุ๊ป
สรุปสัมภาษณ์พิเศษการร่วมทุนทางธุรกิจระหว่าง
บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กับ บริษัท ฮันคิว เรียลตี้ (ประเทศญี่ปุ่น) จำกัด
ทำไมฮันคิวถึงเลือกประเทศไทยในการลงทุน?
มีการเจรจาเรื่องการร่วมทุนตั้งแต่เมื่อไหร่?
เริ่มตั้งแต่เดือน ม.ค. ปีที่แล้ว (2559) ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ จากทาง SENA ไปญี่ปุ่นและได้แลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์กับนายริวอิจิ โมโรโทมิ ของทางฮันคิวเหตุผลสำคัญที่ทางเสนาตัดสินใจร่วมทุนกับทางบริษัทฮันคิว เรียลตี้ จำกัด คืออะไร?
1. Philosophy คือ ปรัชญาในการทำงานที่ตรงกัน "Consumers come first ใส่ใจต่อการบริการลูกค้าเป็นอันดับหนึ่ง การสร้างความไว้วางใจ การศึกษาความต้องการของลูกค้าเพื่อมาพัฒนาผลงานให้ลูกค้ามีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นแม้กระทั่งเรื่องเล็กๆในชีวิตประจำวัน ซึ่งก็คือกระบวนการที่เรียกว่า "Geo fit+" คล้ายกับแนวทางของเสนา คือ "หัวคิด หัวใจ สไตล์เสนา"
2. Segment คือ การมี Segmentation ที่ตรงกัน คือ กลุ่ม Mass ฐานะปานกลางซึ่งเป็นตลาดหลักของกรุงเทพฯ เข้าใจในกลุ่มลูกค้าเดียวกัน อย่างโครงการนิช โมโน ก็จะมีราคาประมาณ 80,000 - 100,000 บ./ตร.ม. ซึ่งถึงแม้ว่าทางฮันคิวเข้ามาร่วมทุน ทางเสนาฯก็จะยืนยันราคานี้ต่อไป
3. Professional คือ การชื่นชมในความเป็นมืออาชีพของคนญีปุ่น และนวัตกรรมต่างๆของเขา
Geo fit+ คืออะไร?
Geo เป็นแบรนด์คอนโดมิเนียมของทางฮันคิว ส่วน fit+ คือการถามลูกค้า เอามาต่อยอด Geo fit+ เป็นแนวคิดแบบญี่ปุ่น เริ่มตั้งแต่ปี 2004 โดยศึกษาความคิดของลูกค้า โดยเริ่มจากนำลูกค้าเป็นพันๆคนมาสอบถามความคิดเห็นว่าต้องการอะไร จากนั้นจึงไปสร้างตัวอย่างขึ้นมาให้ลูกค้าทดลอง แล้วก็กลับมาถามลูกค้าใหม่ ก่อนที่เอาออกมาขาย ทำให้การพัฒนาของฮันคิวตรงกับความต้องการของผู้อยู่อาศัยอย่างลึกซึ้ง หรือบางครั้งเป็นการปรับเปลี่ยน Function ปรับเปลี่ยนตำแหน่งเฟอรนิเจอร์ให้ตรงกับการใช้งานมากที่สุดฟัง ⇒ ทำตัวอย่าง ⇒ ทดสอบ ⇒ ขาย
โดยสามารถสรุปรวมออกมาเป็นJapanese Functionality คือ ฟังก์ชั่น การใช้งานที่มีประสิทธิภาพ
Japanese Innovation คือ นวัตกรรมแนวใหม่ๆที่คิดออกมา เพื่อการอยู่อาศัยอย่างสมบูรณ์แบบ
Japanese Design คือ กลิ่นอายของความเป็นญี่ปุ่นในการออกแบบ
Geo fit+ ที่ทางเสนาฯนำมาปรับใช้คือ กระบวนการหาความต้องการของลูกค้า สอบถามลูกบ้านเกี่ยวกับการอยู่อาศัย เพื่อเป็น value added ให้กับโครงการ โดยแบ่งเป็น 4 หัวข้อหลัก1. Geo Day
การทำให้ชีวิตประจำวันของผู้อยู่อาศัยดีขึ้น ตัวอย่างเช่น บ้านของคนญี่ปุ่นจะมีปัญหาเรื่องพื้นที่เก็บของของสมาชิกในครอบครัวแต่ละคน เนื่องจากพื้นที่ไม่ใหญ่นัก ทางฮันคิวจึงออกแบบให้สมาชิกทุกคนสามารถมีพื้นที่เก็บของของแต่ละคนอย่างเป็นสัดส่วน ทางเสนาได้นำจุดนี้มาประยุกต์ใช้ เช่น โครงการ Niche MONO Sukhumvit 113 ที่ใส่ใจในการออกแบบมากขึ้น ทำให้แต่ละพื้นที่ใช้งานได้หลายแบบ ลองนึกดูว่าจะดีแค่ไหนถ้ามีคนคิดเผื่อเราในสิ่งที่เราไม่เคยคิดถึง เช่น โซฟาที่ด้านล่างเป็นที่เก็บของ ที่วางแขนของโซฟากลายเป็นที่เก็บรีโมท หรือซิงค์ล้างจานที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นเคาท์เตอร์หั่นผักในตัวได้ แถมตู้ด้านบนยังสามารถดึงลงมาวางจานที่เพิ่งล้างเสร็จได้ เมื่อจานแห้งแล้ว จึงพับเก็บขึ้นด้านบนกลายเป็นตู้เก็บจาน สิ่งเหล่านี้ถ้ามองแยกกันอาจดูเป็นสิ่งเล็กน้อย แต่ถ้ารวมกันแล้ว ก็เป็นสิ่งอำนวยความสะดวกให้เราใช้ชีวิตง่ายขึ้น เนื่องมาจากความใส่ใจของ Developer2. Geo Eco
การศึกษาเกี่ยวกับการประหยัดพลังงาน ตัวอย่างเช่น ที่ญี่ปุ่น ทางฮันคิวมีโครงการเก็บน้ำมันที่ใช้ทอดเทมปุระของลูกบ้านแต่ละหลังมารีไซเคิลเป็นเชื้อเพลิงสำหรับรถชัตเตอร์บัสของโครงการ ซึ่งโครงการนี้อาจจะทำได้ยากสำหรับประเทศไทย เนื่องจากฮันคิวเป็นบริษัทใหญ่ที่มีธุรกิจ Logistic เป็นของตัวเอง แต่ก็มีจุดแข็งของ SENA ที่น่าสนใจ เนื่องจาก SENA เป็นบริษัทที่มีการพัฒนาเรื่องโซลาร์เซลล์มานานแล้ว ยิ่งถ้าได้ Know How จากทางฮันคิวมาช่วย เราน่าจะได้เห็นอะไรที่น่าสนใจในอนาคต3. Geo Sonae
การพัฒนาที่เกี่ยวกับความปลอดภัย ตัวอย่างเช่น เดิมแต่ละคอนโดของเสนาฯ (และคอนโดทั่วไป) ก็มีเพียงกล่องปฐมพยาบาลที่คอยช่วยเหลือลูกบ้านในยามเจ็บป่วยกระทันหันได้เพียงเบื้องต้น แต่เมื่อเสนาฯได้เล็งเห็นความปลอดภัยของชีวิตลูกบ้านเป็นสิ่งสำคัญ จึงจัดอบรมเจ้าหน้าที่ในคอนโดให้รู้จักวิธีปฐมพยาบาล ปั๊มหัวใจ เพื่อช่วยชีวิตยามฉุกเฉินหรือการออกแบบประตูให้กว้างพอให้เตียงพยาบาลเข้าไปได้4. Geo Age
การพัฒนาที่เกี่ยวกับผู้สูงอายุ เนื่องจากญี่ปุ่นเป็นประเทศเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุก่อนหน้าประเทศไทยไปหลายปี ดังนั้นฐานข้อมูลส่วนนี้จึงเป็นสิ่งที่สามารถนำมาใช้ได้เลยเพื่อเตรียมรับมือกับสังคมผู้สูงอายุของไทย ตัวอย่างเช่น ประเทศไทยมักติดตั้งปลั๊กไฟใกล้กับพื้น ทาง SENA ก็ย้ายขึ้นมาด้านบน เพราะผู้สูงอายุไม่สามารถก้มได้ สิ่งการใส่ใจอย่างนี้ไม่ได้เพิ่มค่าใช้จ่ายอะไรเลย แต่กลับช่วยให้ผู้อยู่อาศัยมีความสะดวกมากขึ้นในอนาคตเสนามีแผนที่จะนำ Trust mark "Geo fit+" ไปใช้ในโครงการไหนบ้าง
ทางเสนาจะใช้ Trust mark "Geo fit+" ในทุกโครงการที่ร่วมมือกันกับทางฮันคิว เป็นการสร้างความน่าเชื่อถือผ่านสัญลักษณ์ของแบรนด์ที่มีความชำนาญในเรื่องใดเรื่องหนึ่งเป็นพิเศษ ซึ่งในปัจจุบันก็มี 2 โครงการที่ใช้ คือโครงการ Niche Pride เตาปูน - อินเตอร์เชนจ์ ที่ได้ลงนามร่วมทุนกันไปเมื่อเดือน ธ.ค. 2559 และโครงการล่าสุด Niche MONO สุขุมวิท-แบริ่ง ที่จะมีการลงนามร่วมทุนกันโดยโครงการ Niche MONO สุขุมวิท-แบริ่ง เป็นโครงการคอนโด High Rise ที่มีจำนวน 1,270 ยูนิต และตั้งอยู่ใกล้ BTS สถานีแบริ่งเพียง 250 ม. คลิกเพื่อลงทะเบียน
คงต้องรอดูกันไปอีกสักระยะว่าเราจะได้เห็นอะไรใหม่ๆเกิดขึ้นบ้างหลังจากการร่วมมือกันระหว่าง SENA และฮันคิว ซึ่งคงจะทยอยออกมาให้เห็นกันในครึ่งปีหลังของปี 2560 โดยเฉพาะ 2 คอนโดนำร่องอย่าง Niche Pride เตาปูน - อินเตอร์เชนจ์ และ Niche MONO สุขุมวิท-แบริ่ง ซึ่งน่าจะมีทีเด็ดที่ทาง SENA และ ฮันคิว ปล่อยออกมาให้เห็นอย่างแน่นอนครับ