เรือเฟอร์รี่ "พัทยา-หัวหิน-บางปู"
จองเรือเฟอร์รี่ : 038-488-999
ปี 2559 - หน้าใหม่คว้าสัมปทานเดินเรือ 10 ปี พร้อมเปิดให้บริการ ม.ค. 60
กรมเจ้าท่าเผยนโยบายการเดินเรือเฟอรี่เชื่อมอ่าวไทยฝั่งตะวันออก-ตะวันตก โดยได้คัดเลือก บจ.รอยัล พาสเสนเจอร์ ไลเนอร์ ผู้ประกอบการธุรกิจทัวร์และโรงแรมใน จ.ชลบุรี เป็นผู้ได้รับสัมปทานเดินเรือเส้นทางฝั่งตะวันออก (พัทยา-สัตหีบ) กับฝั่งตะวันตก (ชะอำ-หัวหิน-ปราณบุรี) เป็นเวลา 10 ปี โดยระยะที่ 1 เดินเรือโดยสาร เฉพาะเส้นทางพัทยา-หัวหิน เป็นเรือโดยสาร Catamaran Ferry จำนวน 2 ลำ บรรทุกผู้โดยสารได้ 150 คน และ 262 คน ใช้เวลาเดินทาง 1 ชม. 40 นาที เริ่มเดินเรือวันละ 2 เที่ยวระยะทาง 113 กม. เรือออกเวลา 08.30-09.40 น. และ พัทยา-หัวหิน เวลา 15.30-16.40 น. ขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมความพร้อม จะวิ่งทดสอบปลาย ธ.ค.59 ซึ่งบริษัท ต้องเร่งรัดยื่นขออนุญาตใช้เรือเพื่อประกอบการออกใบอนุญาตและกำหนดอัตราค่าโดยสารต่อไป เบื้องต้นราคาค่าโดยสาร 1,200 บ./คน/เที่ยว ส่วนระยะที่ 2 จะเปิดให้บริการกับรถยนต์ ซึ่งทางบริษัทอยู่ระหว่างการนำเสนอท่าเรือหรือจุด ขึ้น-ลงที่เหมาะสมสำหรับ Ferry ที่บรรทุกทั้งผู้โดยสารและรถยนต์ให้กรมเจ้าท่าพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป ด้าน บจ.สยามอีสเทิร์นอินดัสเตรียลพาร์ค (SEP) กล่าวว่า สาเหตุที่บริษัทไม่ยื่นข้อเสนอเนื่องจากระยะเวลาดำเนินการ 10 ปีสั้นเกินไป อีกทั้งการต่อเรือใหม่ต้องใช้เวลา 1 ปี จึงนำมาเปิดบริการได้ ทั้งนี้กลุ่มบริษัทมีแผนลงทุนพัฒนาเส้นทางเดินเรือเฟอรี่ 3 เส้นทาง ได้แก่ พัทยา-หัวหิน, บางปู-พัทยา และบางปู-หัวหิน ใช้เงินลงทุน 15,000 ลบ. ปัจจุบันยังเดินหน้าโครงการตามแผนเดิม จะเริ่มดำเนินการได้ไตรมาส 1 และ 2 ปี 2561 ค่าโดยสาร 1,000 บาท/คน/เที่ยว รถยนต์ 3,000 บาท/คัน/เที่ยว Info : ประชาชาติออนไลน์ (25 พ.ย. 59)FERRY TIMELINE
ปี 2559 - "SEP" พร้อมลงทุน 15,000 ลบ.
ปี 2559 - จท.เร่งสรุปผลการศึกษาภายใน ต.ค. 59
ทางด้านกรมเจ้าท่า (จท.) ได้ว่าจ้างที่ปรึกษาโครงการด้วยมูลค่า 30 ลบ. ตั้งแต่ปี 2558 ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการโดยเน้นศึกษา 1.ความต้องการการขนส่งสินค้า 2.ความต้องการใช้บริการผู้โดยสาร 3.ความเป็นไปได้ในการลงทุนโครงการ และจะสรุปผลการศึกษาให้ได้ภายใน ต.ค.2559 ถ้ารายงานมีความเหมาะสม จะศึกษาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและออกแบบก่อสร้างต่อไป ซึ่งก่อนหน้านี้มี กลุ่ม SEP ผู้ประกอบการนิคมอุตสาหกรรม เสนอแนวคิดให้กรมเจ้าท่าพัฒนาโครงการรูปแบบครบวงจร มีทั้งท่าเรือเฟอร์รี่ สวนสนุกและที่อยู่อาศัย ตั้งเป้ามีผู้ใช้บริการเรือเฟอร์รี่ปีละ 3 ล้านคน และรถยนต์ปีละ 220,000 คัน ใช้เวลาพัฒนา 4 ปี (2559-2562) เงินลงทุน 4,000 ลบ. แบ่งเป็น 3 ระยะ คือ 2559-2560 จะเป็นการต่อเรือ สร้าง Home Port และ Terminal 2560-2561 เริ่มเดินเรือในเส้นทางพัทยา-หัวหิน-ปราณบุรี 2561-2562 ขยายเส้นทางเป็นบางปู-หัวหิน-ปราณบุรี และบางปู-พัทยา Info : TNN Thailand (16 พ.ค. 59)ปี 2558 - คสช. ฟื้นเดินเรือเฟอร์รี่อ่าวไทย
รัฐบาล คสช. นำโดย "พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง" รมต.ว่าการกระทรวงคมนาคมเป็นผู้ขับเคลื่อนโครงการ สั่งการให้ "กรมเจ้าท่า" เร่งศึกษารายละเอียดโครงการให้เสร็จภายใน 12-13 เดือน จากเดิม 18 เดือน เนื่องจากมีผลการศึกษาเมื่อปี 2555 อยู่แล้ว กรมเจ้าท่าตั้งงบประมาณปี 2558-2559 จำนวน 30 ลบ. เพื่อศึกษาโครงการไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะดำเนินการก่อสร้างและจัดหาผู้ให้บริการเดินเรือภายใน 3 ปี แต่หากเลือกท่าเรือเดิมที่มีอยู่แล้วการพัฒนาจะเหลือประมาณ 1 ปีครึ่ง โดยออกแบบให้เป็นท่าเรือมาตรฐาน รองรับรถยนต์ได้ทั้งขนาดเล็ก กลาง และใหญ่ พร้อมการบริการเชิงพาณิชย์ด้วย โดยจะต้องเลือกท่าเรือที่เหมาะสมทั้ง 2 ฝั่ง และจะมีท่าเรือหลัก ท่าเรือสำรองปี 2555 - เปิดผลศึกษาเดิม
รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นรัฐมนตรี เคยศึกษาความเป็นไปได้โครงการ ซึ่งสรุปจุดที่เหมาะสมในการดำเนินโครงการคือ แหลมบาลีฮาย จ.ชลบุรี และหาดปึกเตียน จ.เพชรบุรี ระยะทาง 100 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2-3 ชม. จะเป็นการให้บริการเดินเรือเฟอร์รี่ในระยะเริ่มต้น เรือที่ใช้ต้องมีความสามารถในการเดินทะเลได้ตลอดปี และมีความปลอดภัยจากคลื่นในฤดูกาลมรสุม โดยใช้เรือบรรทุกผู้โดยสารได้คราวละ 280 คน กินน้ำลึก 3 ม. ยาว 40 ม. กว้าง 7 ม.ปี 2554 - รู้หรือไม่โครงการเดินเรือเฟอร์รี่ เคยเปิดให้บริการมาแล้ว
โครงการเรือเฟอร์รี่เส้นทาง "พัทยา-ชะอำ-หัวหิน" เคยเปิดให้บริการมาแล้ว แต่ไม่ประสบความสำเร็จ โดยสายเรือรายล่าสุดที่ให้บริการ ได้แก่ Thai Living บริการโดยเรือเฟอร์รี่แบบ High Speed Catamaran จำนวน 1 ลำ ให้บริการ 2 เที่ยว/สัปดาห์ จากท่าเรือโอเชี่ยน มารีน่าใช้เวลาเดินเรือ 3.5 ชม. ถึงท่าเรือปากน้ำปราณบุรี ซึ่งบริษัทจัดรถบริการส่งผู้โดยสารถึงหัวหินและชะอำ คิดอัตราค่าบริการขาเดียว 1,500 บ. และค่าบริการขาไปและกลับ 2,900 บ. และค่าบริการคิดเหมารายครอบครัวขาเดียว 4,500 บ. และ 8,700 บ. สำหรับขาไปและกลับ ขณะนั้นบริษัทไม่มีการให้บริการขนส่งสินค้า เนื่องจากตัวเรือถูกออกแบบให้รองรับการขนส่งผู้โดยสารอย่างเดียว ที่ผ่านมาผู้มาใช้บริการเป็นชาวต่างชาติ กลุ่มยุโรป และได้หยุดให้บริการเดินเรือตั้งแต่เดือนธันวาคม 2554ระยะแรกของการเปิดให้บริการ
เปิดให้บริการเฉพาะเส้นทาง "พัทยา-หัวหิน" ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง 40 นาที เบื้องต้นมีเรือบริการ 2 ลำ วันละ 2 เที่ยว ช่วงเช้าจาก หัวหิน-พัทยา ตั้งแต่เวลา 08.30-09.40 น. และเย็นจาก พัทยา-หัวหิน ตั้งแต่เวลา 15.30-16.40 น. เริ่มให้บริการ 1 ม.ค. 60 และขอใช้ท่าเรือของทางราชการก่อน 2 แห่ง คือ 1. จอดที่ท่าเรือแหลมบาลีฮาย เมืองพัทยา 2. ท่าเรือสะพานปลาที่หัวหินจุดที่คาดว่าจะเป็นตำแหน่งของท่าเรือในอนาคต
1. พัทยา จ.ชลบุรี จะสร้างที่บ้านอำเภอ 2. บางปู จ.สมุทรปราการ 3. ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ จะสร้างที่ปากน้ำเส้นทางการเดินเรือในอนาคต
เส้นทาง พัทยา-หัวหิน,ปราณบุรี
- เดินทางโดยเรือเฟอร์รี่ ระยะทาง 60 ไมล์ทะเลใช้เวลา 1 ชม. 40 นาที - เดินทางโดยรถยนต์ ระยะทาง 380 กม. ใช้เวลา 5-6 ชม.เส้นทาง บางปู-หัวหิน,ปราณบุรี
- เดินทางโดยเรือเฟอร์รี่ ระยะทาง 80 ไมล์ทะเลใช้เวลา 2 ชม. - เดินทางโดยรถยนต์ ระยะทาง 250 กม. ใช้เวลา 3-4 ชม.เส้นทาง บางปู-พัทยา
- เดินทางโดยเรือเฟอร์รี่ ระยะทาง 36 ไมล์ทะเลใช้เวลา 50 นาที - เดินทางโดยรถยนต์ ระยะทาง 120 กม. ใช้เวลา 2-3 ชม.รูปแบบการลงทุน
รูปแบบการลงทุนเบื้องต้น รัฐบาลร่วมทุนกับเอกชน รัฐบาล เป็นผู้ลงทุนโครงสร้างพื้นฐานหรือก่อสร้างท่าเรือเอง งบประมาณปี 2559 จำนวน 1,000 ลบ. เพื่อพัฒนาท่าเรือ 3 แห่ง เอกชน เป็นผู้ลงทุนการให้บริการและจัดซื้อเรือโดยสาร โดยรัฐฯจะให้สัมปทาน 10 ปีผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับจากโครงการ
จากการศึกษาโครงการคาดว่าจะสามารถสร้างพื้นที่บริเวณโดยรอบท่าเรือให้กลายเป็นแหล่งขยายตัวทางเศรษฐกิจปีละกว่า 4,000 ลบ. ส่งผลให้มีการกระจายตัวเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจปีละ 16,500 ลบ. และมีการสร้างงานคิดเป็นรายได้ปีละ 1,800 ลบ.คลิปวิดิโอตัวอย่างสายการเดินเรือ Anantasia เส้นทาง "พัทยา-หัวหิน-บางปู"
Info : www.Threedlands.com