realist-blog-logo
facebook-logo youtube-logo instagram-logo line-logo tiktok-logo
thelist-logo
 (222)
 (318)
 (388)
 (29)
 (11)
 (4)
 (19)
 (199)
 (54)
 (29)
 (6)
 (5)
 (9)
 (51)
 (9)
 (34)
 (27)
 (9)
 (9)
 (181)
 (85)
 (110)
 (106)
 (41)
 (17)
 (45)
 (24)
 (41)
 (19)
 (18)
 (13)
 (36)
 (13)
youtube-icon instagram-icon line-icon tiktok-icon
realist-blog-logo
 (222)
 (318)
 (388)
 (29)
 (11)
 (4)
 (19)
 (199)
 (54)
 (29)
 (6)
 (5)
 (9)
 (51)
 (9)
 (34)
 (27)
 (9)
 (9)
 (181)
 (85)
 (110)
 (106)
 (41)
 (17)
 (45)
 (24)
 (41)
 (19)
 (18)
 (13)
 (36)
 (13)
youtube-icon instagram-icon line-icon tiktok-icon

เรือเฟอร์รี่ พัทยา-หัวหิน

27 Jul 2016 121.6K

เรือเฟอร์รี่ พัทยา-หัวหิน

27 Jul 2016 121.6K
 

เรือเฟอร์รี่ "พัทยา-หัวหิน-บางปู"

กรมเจ้าท่าเปิดเผยแผนโครงการเรือเฟอร์รี่เชื่อมอ่าวไทยฝั่งตะวันออก-ตะวันตก หรือ โครงการ East-West Ferry ว่าบริษัท รอยัล พาสเสนเจอร์ ไลเนอร์ เป็นผู้ที่ได้รับสัมปทานเดินเรือโดย ระยะที่ 1 เดินเรือโดยสาร "พัทยา-หัวหิน" Catamaran Ferry จำนวน 2 ลำ บรรทุกผู้โดยสารได้ 150 คน และ 262 คน ระยะที่ 2 เรือโดยสารและขนส่งรถยนต์ด้วย อยู่ระหว่างการนำเสนอท่าเรือหรือจุดขึ้น-ลงที่เหมาะสม โดยเส้นทางเดินเรือนี้จะช่วยย่นระยะเวลาในการเดินทาง ทางรถยนต์ลงไปได้มากกว่า 3 เท่าตัว สามารถเดินทางจากพัทยา-หัวหิน โดยใช้เวลาเพียง 1 ชม. 40 นาทีเท่านั้น และจะสามารถสร้างพื้นที่บริเวณโดยรอบท่าเรือให้กลายเป็นแหล่งขยายตัวทางเศรษฐกิจปีละกว่า 4,000 ลบ. คาดเปิดให้บริการ 1 ม.ค.60 Info : ประชาชาติออนไลน์     (25 พ.ย. 59)

จองเรือเฟอร์รี่ : 038-488-999

 
เรือเฟอร์รี่ (Ferry or Ferryboat) หมายถึง เรือการพาณิชย์ที่นำส่งผู้โดยสาร บรรทุกรถยนต์และสินค้าข้ามแม่น้ำหรือมหาสมุทร เรือเฟอร์รี่โดยทั่วไปจะเดินทางตามปกติ ออกบ่อยครั้งและกลับมาส่งผู้โดยสารที่เดิมได้ เรือเฟอร์รี่แบ่งออกเป็น  3 ประเภท คือ 1.ประเภทความเร็วสูง สำหรับบรรทุกรถยนต์ บรรทุกสินค้าได้ เช่น แบบ swath, catamaran, jet, hydrofoil เป็นต้น (โครงการดังกล่าวน่าจะใช้เป็นแบบนี้) 2.ประเภทบริการชายฝั่ง ความเร็วปานกลาง-ต่ำ สามารถเดินทางในอ่าวหรือระยะใกล้มีที่สำหรับบรรทุกรถยนต์ บรรทุกสินค้าได้น้อย แต่ประหยัดค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติการเรือได้มาก มีขนาดประมาณ 2,000 ตันกรอส 3.ประเภทบริการระหว่างเมืองท่าใกล้ฝั่ง ความเร็วสูงกว่าประเภทบริการชายฝั่ง แต่อาจจะปรับแต่งให้ใช้แบบประหยัด มีที่สำหรับบรรทุกรถยนต์ที่ใช้บรรทุกสินค้าได้มากกว่า มีขนาดประมาณ 10,000 ตันกรอส Info : www.tri.chula.ac.th
ภาพเรือเฟอร์รี่ประเภทบริการชายฝั่ง ที่เดินเรือในอ่าวไทย เส้นทางดอนสัก-เกาะพะงัน-ดอนสัก สามารถบรรทุกผู้โดยสาร 400 คน รถยนต์ 52 คัน - ภาพจาก Rajaferryport

 

ปี 2559 - หน้าใหม่คว้าสัมปทานเดินเรือ 10 ปี พร้อมเปิดให้บริการ ม.ค. 60

กรมเจ้าท่าเผยนโยบายการเดินเรือเฟอรี่เชื่อมอ่าวไทยฝั่งตะวันออก-ตะวันตก โดยได้คัดเลือก บจ.รอยัล พาสเสนเจอร์ ไลเนอร์ ผู้ประกอบการธุรกิจทัวร์และโรงแรมใน จ.ชลบุรี เป็นผู้ได้รับสัมปทานเดินเรือเส้นทางฝั่งตะวันออก (พัทยา-สัตหีบ) กับฝั่งตะวันตก (ชะอำ-หัวหิน-ปราณบุรี) เป็นเวลา 10 ปี โดยระยะที่ 1 เดินเรือโดยสาร เฉพาะเส้นทางพัทยา-หัวหิน เป็นเรือโดยสาร Catamaran Ferry จำนวน 2 ลำ บรรทุกผู้โดยสารได้ 150 คน และ 262 คน ใช้เวลาเดินทาง 1 ชม. 40 นาที เริ่มเดินเรือวันละ 2 เที่ยวระยะทาง 113 กม. เรือออกเวลา 08.30-09.40 น. และ พัทยา-หัวหิน เวลา 15.30-16.40 น. ขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมความพร้อม จะวิ่งทดสอบปลาย ธ.ค.59 ซึ่งบริษัท ต้องเร่งรัดยื่นขออนุญาตใช้เรือเพื่อประกอบการออกใบอนุญาตและกำหนดอัตราค่าโดยสารต่อไป เบื้องต้นราคาค่าโดยสาร 1,200 บ./คน/เที่ยว ส่วนระยะที่ 2 จะเปิดให้บริการกับรถยนต์ ซึ่งทางบริษัทอยู่ระหว่างการนำเสนอท่าเรือหรือจุด ขึ้น-ลงที่เหมาะสมสำหรับ Ferry ที่บรรทุกทั้งผู้โดยสารและรถยนต์ให้กรมเจ้าท่าพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป ด้าน บจ.สยามอีสเทิร์นอินดัสเตรียลพาร์ค (SEP) กล่าวว่า สาเหตุที่บริษัทไม่ยื่นข้อเสนอเนื่องจากระยะเวลาดำเนินการ 10 ปีสั้นเกินไป อีกทั้งการต่อเรือใหม่ต้องใช้เวลา 1 ปี จึงนำมาเปิดบริการได้ ทั้งนี้กลุ่มบริษัทมีแผนลงทุนพัฒนาเส้นทางเดินเรือเฟอรี่ 3 เส้นทาง ได้แก่ พัทยา-หัวหิน, บางปู-พัทยา และบางปู-หัวหิน ใช้เงินลงทุน 15,000 ลบ. ปัจจุบันยังเดินหน้าโครงการตามแผนเดิม จะเริ่มดำเนินการได้ไตรมาส 1 และ 2 ปี 2561 ค่าโดยสาร 1,000 บาท/คน/เที่ยว รถยนต์ 3,000 บาท/คัน/เที่ยว Info : ประชาชาติออนไลน์ (25 พ.ย. 59)    

FERRY TIMELINE

ภาพกลุ่มสยามอีสเทิร์นอินดัสเตรียลพาร์ค - แนวหน้าออนไลน์

ปี 2559 - "SEP" พร้อมลงทุน 15,000 ลบ.

บริษัท สยามอีสเทิร์น อินดัสเตรียลพาร์ค จำกัด (Siam Eastern Industrial Park Co. หรือกลุ่ม SEPเปิดเผยเตรียมลงทุน 15,000 ลบ.โครงการเดินเรือเฟอร์รี่จากบางปูไปพัทยาแล้วข้ามอ่าวไทยตรงไปปราณบุรี ประจวบคีรีขันธ์หรือ East-West Ferry project
เบื้องต้นประเมินการลงทุนน่าจะตกประมาณ 15,000 ลบ. ในจำนวนนี้ 9,000 ลบ. จะเป็นการลงทุนสร้างท่าเรือเฟอร์รี่ 3 แห่งคือ บางปู จ.สมุทรปราการ, พัทยา จ.ชลบุรีและปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ส่วนที่เหลือจะเป็นการลงทุนซื้อเรือเฟอร์รี่ขนาดกลาง 4 ลำ แต่ละวันจะมีการเดินเรือวันละ 16 เที่ยวระหว่างพัทยา-ปราณบุรี และวันละ 20 เที่ยวระหว่างปราณบุรี-บางปู-พัทยา ค่าโดยสารของผู้โดยสารจะตกเที่ยวละ 1,000 บ. ส่วนรถยนต์ตกคันละ 3,000 บ. ในเส้นทางจากพัทยาถึงปราณบุรี และคาดว่าจะมีผู้โดยสารใช้บริการปีละ 2.8 ล้านคน   Info :สำนักข่าว 4 ภาษา ไทยทริบูน (30 พ.ค. 59)
 
ภาพข่าวสัมภาษณ์อธิบดีกรมเจ้าท่า - ครอบครัวข่าว

ปี 2559 - จท.เร่งสรุปผลการศึกษาภายใน ต.ค. 59

ทางด้านกรมเจ้าท่า (จท.) ได้ว่าจ้างที่ปรึกษาโครงการด้วยมูลค่า 30 ลบ. ตั้งแต่ปี 2558 ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการโดยเน้นศึกษา 1.ความต้องการการขนส่งสินค้า 2.ความต้องการใช้บริการผู้โดยสาร 3.ความเป็นไปได้ในการลงทุนโครงการ และจะสรุปผลการศึกษาให้ได้ภายใน ต.ค.2559 ถ้ารายงานมีความเหมาะสม จะศึกษาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและออกแบบก่อสร้างต่อไป ซึ่งก่อนหน้านี้มี กลุ่ม SEP ผู้ประกอบการนิคมอุตสาหกรรม เสนอแนวคิดให้กรมเจ้าท่าพัฒนาโครงการรูปแบบครบวงจร มีทั้งท่าเรือเฟอร์รี่ สวนสนุกและที่อยู่อาศัย ตั้งเป้ามีผู้ใช้บริการเรือเฟอร์รี่ปีละ 3 ล้านคน และรถยนต์ปีละ 220,000 คัน ใช้เวลาพัฒนา 4 ปี (2559-2562) เงินลงทุน 4,000 ลบ. แบ่งเป็น 3 ระยะ คือ 2559-2560 จะเป็นการต่อเรือ สร้าง Home Port และ Terminal 2560-2561 เริ่มเดินเรือในเส้นทางพัทยา-หัวหิน-ปราณบุรี 2561-2562 ขยายเส้นทางเป็นบางปู-หัวหิน-ปราณบุรี และบางปู-พัทยา Info : TNN Thailand (16 พ.ค. 59)
 

ปี 2558 - คสช. ฟื้นเดินเรือเฟอร์รี่อ่าวไทย 

รัฐบาล คสช. นำโดย "พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง" รมต.ว่าการกระทรวงคมนาคมเป็นผู้ขับเคลื่อนโครงการ สั่งการให้ "กรมเจ้าท่า" เร่งศึกษารายละเอียดโครงการให้เสร็จภายใน 12-13 เดือน จากเดิม 18 เดือน เนื่องจากมีผลการศึกษาเมื่อปี 2555 อยู่แล้ว  กรมเจ้าท่าตั้งงบประมาณปี 2558-2559 จำนวน 30 ลบ. เพื่อศึกษาโครงการไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะดำเนินการก่อสร้างและจัดหาผู้ให้บริการเดินเรือภายใน 3 ปี แต่หากเลือกท่าเรือเดิมที่มีอยู่แล้วการพัฒนาจะเหลือประมาณ 1 ปีครึ่ง โดยออกแบบให้เป็นท่าเรือมาตรฐาน รองรับรถยนต์ได้ทั้งขนาดเล็ก กลาง และใหญ่ พร้อมการบริการเชิงพาณิชย์ด้วย โดยจะต้องเลือกท่าเรือที่เหมาะสมทั้ง 2 ฝั่ง และจะมีท่าเรือหลัก ท่าเรือสำรอง 
ภาพ พล.อ.อ. ดร.ประจิน จั่นตอง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม - ผู้จัดการออนไลน์
รูปแบบของโครงการ เบื้องต้นจุดเหมาะสมสำหรับ "ท่าเรือฝั่งตะวันตก" จะอยู่บริเวณหัวหิน จ.ประจวบฯ, หาดปึกเตียน ชะอำ จ.เพชรบุรี, ปราณบุรี จ.ประจวบฯ "ท่าเรือฝั่งตะวันออก" บริเวณท่าเรือแหลมฉบัง หรือท่าเทียบเรือเกาะลอย ศรีราชา หากเป็นไปได้จะใช้ท่าเรือของภาครัฐหรือรัฐวิสาหกิจ เนื่องจากต้องการให้เป็นท่าเรือสำหรับสาธารณะ จะทำให้การบริการไม่แพงมาก ส่วนการให้บริการเดินเรือจะเป็นการลงทุนของภาคเอกชนที่เข้ามารับสัมปทานเดินเรือ  Info : ประชาชาติออนไลน์ (6 พ.ค. 2559)  

ปี 2555เปิดผลศึกษาเดิม

รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นรัฐมนตรี เคยศึกษาความเป็นไปได้โครงการ ซึ่งสรุปจุดที่เหมาะสมในการดำเนินโครงการคือ แหลมบาลีฮาย จ.ชลบุรี และหาดปึกเตียน จ.เพชรบุรี ระยะทาง 100 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2-3 ชม. จะเป็นการให้บริการเดินเรือเฟอร์รี่ในระยะเริ่มต้น  เรือที่ใช้ต้องมีความสามารถในการเดินทะเลได้ตลอดปี และมีความปลอดภัยจากคลื่นในฤดูกาลมรสุม โดยใช้เรือบรรทุกผู้โดยสารได้คราวละ 280 คน กินน้ำลึก 3 ม. ยาว 40 ม. กว้าง 7 ม.
ภาพ นส.ยิ่งลักษณ์ อดีตนายกรัฐมนตรี - ประชาชาติออนไลน์
รูปแบบของโครงการ ทางภาครัฐและเอกชนจะร่วมลงทุน และอยู่ในระหว่างศึกษาว่ารัฐฯจะลงทุนสร้างท่าเรือใหม่หรือใช้ท่าเรือที่มีอยู่เดิม เช่น ท่าเรือแหลมบาลีฮาย(พัทยาใต้) ท่าเรือแหลมฉบัง ท่าจอดเรือโอเชี่ยนมารีน่า ท่าเรือชลประทานซีเมนต์(ชะอำ) ท่าจอดเรือภัทรมารีน่า(ปราณบุรี) ท่าเทียบเรือประมงหัวหิน ท่าเทียบเรือปราณบุรี ส่วนท่าเรือใหม่ที่อาจพัฒนาเพิ่ม เช่น หาดปึกเตียน และบริเวณปากร่องน้ำทางเข้าท่าเรือชลประทานซีเมนต์ ด้านเอกชนจะรับสัมปทานเช่าท่าเรือและพัฒนาการเดินเรือเองทั้งหมด ภายในระยะเวลา 10 ปี Info : ประชาชาติออนไลน์ (6 พ.ค. 2559)  

ปี 2554 - รู้หรือไม่โครงการเดินเรือเฟอร์รี่ เคยเปิดให้บริการมาแล้ว

โครงการเรือเฟอร์รี่เส้นทาง "พัทยา-ชะอำ-หัวหิน" เคยเปิดให้บริการมาแล้ว แต่ไม่ประสบความสำเร็จ โดยสายเรือรายล่าสุดที่ให้บริการ ได้แก่ Thai Living บริการโดยเรือเฟอร์รี่แบบ High Speed Catamaran จำนวน 1 ลำ ให้บริการ 2 เที่ยว/สัปดาห์ จากท่าเรือโอเชี่ยน มารีน่าใช้เวลาเดินเรือ 3.5 ชม. ถึงท่าเรือปากน้ำปราณบุรี ซึ่งบริษัทจัดรถบริการส่งผู้โดยสารถึงหัวหินและชะอำ คิดอัตราค่าบริการขาเดียว 1,500 บ. และค่าบริการขาไปและกลับ 2,900 บ. และค่าบริการคิดเหมารายครอบครัวขาเดียว 4,500 บ. และ 8,700 บ. สำหรับขาไปและกลับ ขณะนั้นบริษัทไม่มีการให้บริการขนส่งสินค้า เนื่องจากตัวเรือถูกออกแบบให้รองรับการขนส่งผู้โดยสารอย่างเดียว ที่ผ่านมาผู้มาใช้บริการเป็นชาวต่างชาติ กลุ่มยุโรป และได้หยุดให้บริการเดินเรือตั้งแต่เดือนธันวาคม 2554
ภาพประกอบจาก Marinerthai
ทำไมเรือเฟอร์รี่ปี 2554 ถึงหยุดให้บริการ? 1.ราคาแพง ผู้โดยสารมีน้อย มีลูกค้าเพียงต่างชาติ 2.ขาดความน่าสนใจด้านการท่องเที่ยว เนื่องจากไม่มีเกาะที่สวยงาม 3.ไม่สามารถแข่งขันกับการขนส่งทางถนนได้ 4.ปัญหาคลื่นลมพายุทะเลฝั่งชะอำและหัวหิน จะมีคลื่นที่ใหญ่กว่าที่ฝั่งพัทยา Info : ประชาชาติออนไลน์ (6 พ.ค. 2559)  

 

ระยะแรกของการเปิดให้บริการ

เปิดให้บริการเฉพาะเส้นทาง "พัทยา-หัวหิน" ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง 40 นาที เบื้องต้นมีเรือบริการ 2 ลำ วันละ 2 เที่ยว ช่วงเช้าจาก หัวหิน-พัทยา ตั้งแต่เวลา 08.30-09.40 น. และเย็นจาก พัทยา-หัวหิน ตั้งแต่เวลา 15.30-16.40 น. เริ่มให้บริการ 1 ม.ค. 60 และขอใช้ท่าเรือของทางราชการก่อน 2 แห่ง คือ 1. จอดที่ท่าเรือแหลมบาลีฮาย เมืองพัทยา 2. ท่าเรือสะพานปลาที่หัวหิน   

จุดที่คาดว่าจะเป็นตำแหน่งของท่าเรือในอนาคต

1. พัทยา จ.ชลบุรี จะสร้างที่บ้านอำเภอ     2. บางปู จ.สมุทรปราการ     3. ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ จะสร้างที่ปากน้ำ  

เส้นทางการเดินเรือในอนาคต

เส้นทาง พัทยา-หัวหิน,ปราณบุรี

- เดินทางโดยเรือเฟอร์รี่ ระยะทาง 60 ไมล์ทะเลใช้เวลา 1 ชม. 40 นาที - เดินทางโดยรถยนต์ ระยะทาง 380 กม. ใช้เวลา 5-6 ชม.

เส้นทาง บางปู-หัวหิน,ปราณบุรี

- เดินทางโดยเรือเฟอร์รี่ ระยะทาง 80 ไมล์ทะเลใช้เวลา 2 ชม. - เดินทางโดยรถยนต์ ระยะทาง 250 กม. ใช้เวลา 3-4 ชม.

เส้นทาง บางปู-พัทยา

- เดินทางโดยเรือเฟอร์รี่ ระยะทาง 36 ไมล์ทะเลใช้เวลา 50 นาที - เดินทางโดยรถยนต์ ระยะทาง 120 กม. ใช้เวลา 2-3 ชม.
 

รูปแบบการลงทุน

รูปแบบการลงทุนเบื้องต้น รัฐบาลร่วมทุนกับเอกชน รัฐบาล เป็นผู้ลงทุนโครงสร้างพื้นฐานหรือก่อสร้างท่าเรือเอง งบประมาณปี 2559 จำนวน 1,000 ลบ. เพื่อพัฒนาท่าเรือ 3 แห่ง เอกชน เป็นผู้ลงทุนการให้บริการและจัดซื้อเรือโดยสาร โดยรัฐฯจะให้สัมปทาน 10 ปี

ผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับจากโครงการ

จากการศึกษาโครงการคาดว่าจะสามารถสร้างพื้นที่บริเวณโดยรอบท่าเรือให้กลายเป็นแหล่งขยายตัวทางเศรษฐกิจปีละกว่า 4,000 ลบ. ส่งผลให้มีการกระจายตัวเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจปีละ 16,500 ลบ. และมีการสร้างงานคิดเป็นรายได้ปีละ 1,800 ลบ.
   

คลิปวิดิโอตัวอย่างสายการเดินเรือ Anantasia เส้นทาง "พัทยา-หัวหิน-บางปู"

Info : www.Threedlands.com

จองเรือเฟอร์รี่ : 038-488-999

Content Creator
ให้เราช่วยคุณหาคอนโดที่ใช่
REAL DATA รวบรวมคอนโดฯ ในกรุงเทพ นำเสนอข้อมูลอย่างเป็นระบบครบถ้วน แผนที่ที่ง่ายต่อการค้นหา รวมถึงมีราคาตลาด ยอดขายที่น่าเชื่อถือและบทความวิเคราะห์เชิงลึก ทั้งในเรื่องความน่าอยู่และน่าลงทุน

Condo Database  

Image Shortcut
Image Shortcut
ให้เราช่วยคุณหาคอนโดที่ใช่
REAL DATA รวบรวมคอนโดฯ ในกรุงเทพ นำเสนอข้อมูลอย่างเป็นระบบครบถ้วน แผนที่ที่ง่ายต่อการค้นหา รวมถึงมีราคาตลาด ยอดขายที่น่าเชื่อถือและบทความวิเคราะห์เชิงลึก ทั้งในเรื่องความน่าอยู่และน่าลงทุน

REAL DATA  

 (222)
 (318)
 (388)
 (29)
 (11)
 (4)
 (19)
 (199)
 (54)
 (29)
 (6)
 (5)
 (9)
 (51)
 (9)
 (34)
 (27)
 (9)
 (9)
 (181)
 (85)
 (110)
 (106)
 (41)
 (17)
 (45)
 (24)
 (41)
 (19)
 (18)
 (13)
 (36)
 (13)
youtube-icon instagram-icon line-icon tiktok-icon