อัพเดทราคาคอนโดริมน้ำ 2561
พื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นหนึ่งในพื้นที่ยอดนิยมและเป็นจุดขายที่สำคัญของกรุงเทพฯ ปริมาณของคอนโดมิเนี่ยมในโซนริมน้ำเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดถึง 28,600 ยูนิตในปี 2561 รวมถึงราคาที่พุ่งขึ้นสูงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ใจกลางเมืองกรุงเทพฯ อย่างโซนเจริญกรุง เจริญนคร และ พระราม 3 ที่เป็นโซนคอนโดริมน้ำยอดนิยมของกรุงเทพฯ ตั้งแต่อดีต
แต่ก็มีบางทำเลที่เป็นที่น่าจับตามองอย่างโซนบางโพ-เตาปูน เพราะ ณ ปัจจุบันราคายังจับต้องได้ แต่ในอนาคตเองนั้นมีแนวโน้มว่าราคาจะปรับตัวสูงขึ้นจากความเจริญที่ขยายเข้ามา ทั้งโครงการ Mega Project ทั้งจากภาครัฐและเอกชน
ทาง REALIST จะพาไปอัพเดทสถานะคอนโดประเภท High Rise ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ว่ามีโครงการไหนเพิ่งเปิดตัวมาใหม่, กำลังก่อสร้างหรือ Sold Out ไปแล้วบ้าง รวมถึงราคาเฉลี่ยเริ่มต้นของแต่ละโครงการว่าโครงการไหนน่าสนใจกันบ้างครับ
ภาพรวมตลาดคอนโดริมแม่น้ำเจ้าพระยา 2561
Info : colliers, thebangkokinsight
จำนวนคอนโดมิเนียมริมแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งในกรุงเทพฯ และจังหวัดนนทบุรีนั้นมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยจากสถิติตั้งแต่ปี 2538 - 2549 เป็นช่วงที่ยังไม่มีการพัฒนาโครงการมากนัก แต่เริ่มมีปริมาณที่เพิ่มขึ้นในปี 2550 จนมาก้าวกระโดดในปี 2552 จนมาถึงในปัจจุบันปี 2561 มีจำนวนยูนิตกว่า 28,600 ยูนิต
4 ทำเลคอนโด HIGH RISE ริมน้ำ กรุงเทพฯ-นนทบุรี
จากการสำรวจจำนวนยูนิตของคอนโด High Rise ริมแม่น้ำเจ้าพระยากรุงเทพฯ-นนทบุรี ปี 2561 พบว่า โดยส่วนใหญ่เป็นโครงการที่อยู่ในพื้นที่ตามแนวถนนพระราม 3 คิดเป็น 31% ของจำนวนยูนิตทั้งหมด เป็นเพราะตัวพื้นที่มีการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมมาก่อนหน้านี้นานมากแล้วตั้งแต่อดีต ที่อยู่ใกล้แหล่งงานสำคัญอย่าง CBD สีลม-สาทร อีกทั้งหลายโครงการก็เป็นโครงการคอนโดมิเนียมขนาดใหญ่ที่มีจำนวนยูนิตมากกว่า 1,000 ยูนิต
ส่วนพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาตามแนวถนนสนามบินน้ำนั้น มีจำนวนรองลงมา ซึ่งเป็นพื้นที่ใหม่ที่เพิ่งเริ่มมีโครงการเปิดขายใหม่มากขึ้นในช่วงปี 2559 หลังจากที่เส้นทางรถไฟฟ้าสายสีม่วงใกล้เปิดให้บริการ อีกทั้งเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่มีจำนวนยูนิตมากกว่า 1,000 ยูนิตหลายโครงการอีกด้วย
รองลงมาคือโซนบางโพ-เตาปูน จำนวน 4,300 ยูนิต ที่เป็นทำเลที่เริ่มกำลังฮิตขึ้นมามากขึ้น จากการพัฒนาของ Mega Project ในอนาคตหลายแห่งในพื้นที่
ส่วนที่น้อยที่สุดคือ เจริญกรุง-เจริญนคร-คลองสาน เป็นเพราะข้อจำกัดด้านจำนวนที่ดินที่น้อยกว่าย่านอื่นๆ และส่วนใหญ่นั้นจะเป็นคอนโดระดับ Luxury ทำให้มียูนิตต่อโครงการที่น้อยกว่าโครงการประเภทอื่น
ราคาขายคอนโดมิเนียมริมแม่น้ำเจ้าพระยาในพื้นที่ต่างๆ มีความแตกต่างของราคาค่อนข้างมาก โดยพื้นที่ที่คอนโด High Rise มีราคาขายสูงสุด คือ พื้นที่ตามแนวถนนเจริญกรุง คลองสานและเจริญนคร มีราคาเฉลี่ยเริ่มต้นสูงถึง 250,000 บ./ตร.ม. รองลงมาคือ โซนพระราม 3 และ ราษฎร์บูรณะ ที่มีราคาอยู่ที่ 131,000 บ./ตร.ม. ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะทั้ง 2 พื้นที่นี้อยู่ใกล้กับพื้นที่ CBD สีลม-สาทรของกรุงเทพฯ
สำหรับโซนบางโพและ เตาปูน เป็นโซนคอนโดริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่มีราคาถูกกว่า 2 โซนที่อยู่ใจกลางเมือง อยู่ที่ 105,000 บ./ตร.ม. ซึ่งในอนาคตข้างหน้ามีแนวโน้มอย่างมากที่ราคาจะพุ่งสูงขึ้นมากกว่านี้ เพราะด้วยปัจจัยด้านโครงการในอนาคตทั้งของภาครัฐและเอกชนที่จะเกิดขึ้นอีกมากในพื้นที่
ส่วนโซนสนามบินน้ำ ที่อยู่จังหวัดนนทบุรีนั้น มีราคาอยู่ที่ 77,000 บ./ตร.ม. เป็นทางเลือกของผู้อยู่อาศัยคอนโดริมน้ำในแถบชานเมือง ในราคาที่จับต้องได้
พื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาจะเป็นทำเลที่ในอนาคตจะหาที่ดินได้ยากมากขึ้นอีกทั้งข้อจำกัดในการพัฒนาจากเรื่องของกฎหมาย ทำให้ราคาคอนโดริมน้ำมีแนวโน้มสูงขึ้นอีกมากในอนาคต
1. พระราม 3 - ราษฎร์บูรณะ
ย่านพระราม 3 - ราษฎร์บูรณะ นับว่าเป็นทำเลศูนย์รวมคอนโดริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่มาบุกเบิกในกรุงเทพฯ แห่งแรกๆ เลยก็ว่าได้ เพราะด้วยความที่ใกล้ใจกลางเมืองอย่าง CBD สีลม-สาทร ทำให้เป็นที่ต้องการของคนทำงานในกรุงเทพฯ ตั้งแต่ยุคแรกๆ ก่อนที่ความเจริญจะกระจายไปยังย่านอื่นๆ เหมือนในปัจจุบั น
ซึ่งคอนโดส่วนใหญ่มีอายุมากกว่า 3 ปี และหลายแห่งก็มากกว่า 10 ปีขึ้นไป โดยส่วนใหญ่นั้นมักจะ Sold Out ไปหลายโครงการเหลือแต่ห้อง Resale อยู่เท่านั้น โดยมีราคาเฉลี่ยเริ่มต้นอยู่ 131,000 บ./ตร.ม.
สำหรับโครงการใหม่จะอยู่ในช่วงระหว่างก่อสร้างมาซักระยะนึงแล้ว นั่นคือ SUPALAI RIVA GRANDE ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2563 และ CANAPAYA RESIDENCES ที่กำลังจะแล้วเสร็จในปลายปี 2561 นี้
2. เจริญกรุง-เจริญนคร-คลองสาน
ย่านเจริญกรุง-เจริญนคร-คลองสาน เป็นย่านคอนโดริมแม่น้ำที่โดดเด่นเรื่องความ Luxury ทั้งระดับคอนโดและทำเลที่อยู่ใจกลางเมือง ทำให้มีราคาที่สูงกว่าย่านอื่นๆ อย่างมาก
ซึ่งล้วนมีระดับราคาเริ่มต้นที่มากกว่า 200,000 บ./ตร.ม. ขึ้นไปแทบทุกโครงการที่เป็นโครงการใหม่ โดยราคาเฉลี่ยเริ่มต้นในย่านนี้จะอยู่ที่ 250,000 บ./ตร.ม.
และมีโครงการเกิดใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวไป 1-2 ปี และที่กำลังก่อสร้างอยู่หลายแห่งทั้งที่เป็นโครงการประเภทอยู่อาศัยและโครงการ Mixed-use ที่อยู่ในระดับ Mega Project อย่าง THE RESIDENCES AT MANDARIN ORIENTAL BANGKOK และ MAGNOLIAS WATERFRONT RESIDENCES ที่อยู่ในโครงการ ICON SIAM ที่จะเป็น Landmark พื้นที่ริมน้ำแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ
3. สนามบินน้ำ
ย่านสนามบินน้ำ เป็นย่านคอนโดริมแม่น้ำชานเมือง อยู่จังหวัดนนทบุรี ที่เด่นในเรื่องราคาที่ไม่สูงมาก มีความสงบ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวายในใจกลางเมืองและคนที่ทำงานในจังหวัดนนทบุรี
คอนโดริมแม่น้ำบริเวณนี้จะเป็นแบบ Low Rise เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งแบบ High Rise แถวนี้ยังมีไม่มากนัก โดยมีโครงการใหม่ที่กำลังก่อสร้างอยู่ 2 แห่งก็คือ THE POLITAN RIVE ที่คาดว่าจะสร้างเสร็จในต้นปี 2562 และ THE POLITAN AQUA ที่เพิ่งเปิดตัวในปีนี้ และคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2563
โดยราคาเฉลี่ยเริ่มต้นคอนโดริมแม่น้ำในย่านนี้จะอยู่ที่ 77,000 บ./ตร.ม.
4. จรัญสนิทวงศ์
จรัญสนิทวงศ์ เป็นย่านฝั่งธนที่มีผู้อยู่อาศัยหนาแน่น มีศักยภาพสูงเนื่องจากเชื่อมต่อกับปิ่นเกล้าและยังมีรถไฟฟ้ามาลงถึงสามสาย
นอกจากคอนโดมิเนียมวิวแม่น้ำเจ้าพระยาที่เปิดมาได้สักพักใหญ่อย่าง My Resort At River แล้ว ในย่านจรัญสนิทวงศ์ยังมีคอนโดที่เพิ่งเปิดตัวในปี 2560 และ 2561 อีกสองแห่งคือ The Tree Rio Bang-Aor Station และ De Lapis Charan 81
โดยราคาเฉลี่ยเริ่มต้นคอนโดริมแม่น้ำในย่านนี้จะอยู่ที่ 89,400 บ./ตร.ม.
5. บางโพ-เตาปูน
ย่านบางโพ-เตาปูน นับว่าเป็นย่านคอนโดริมแม่น้ำในกรุงเทพฯ ที่น่าจับตามอง โดยคอนโดริมแม่น้ำในย่านนี้มีราคาเฉลี่ยเริ่มต้นอยู่ที่ 105,000 บ./ตร.ม. และพบว่ามีคอนโดอยู่หลายแห่งในพื้นที่ ซึ่งเป็นคอนโดจาก Pruksa 2 โครงการและ Chapter One Condo จาก Pruksa อีก 2 โครงการ ที่อยู่ในทำเลเข้าเมืองได้สะดวกและมีความเจริญแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ
ซึ่งสิ่งสำคัญในการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้คือการพัฒนาโครงการ Mega Project ในอนาคตที่เกิดขึ้นมากมายในพื้นที่ คือ
1. รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ที่จะสร้างครบ Loop มาเพิ่มการเชื่อมต่อที่สมบูรณ์ของการเดินทางในโซนกรุงเทพฯ ชั้นใน
2. พื้นที่สถานีกลางบางซื่อถูกสร้างขึ้นให้เป็นศูนย์กลางการเปลี่ยนถ่ายระบบคมนาคมทางรางที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน
3. “สัปปายะสภาสถาน” รัฐสภาแห่งใหม่ของไทย ที่จะเป็น Landmark ริมแม่น้ำเจ้าพระยาใหม่ของกรุงเทพฯ
4. สะพานเกียกกาย ที่มารองรับอาคารรัฐสภาแห่งใหม่และเชื่อมกรุงเทพฯ ตะวันตก-ออกเข้าด้วยกัน
5. ขยายถนนรอบรัฐสภาใหม่ ที่เพิ่มศักยภาพการเชื่อมต่อและการจราจรที่คล่องตัวยิ่งขึ้น
6. GATEWAY บางซื่อ ห้างใหม่แห่งย่านบางซื่อ ที่ใช้เงินลงทุนกว่า 4,000 ล้านบาท
บางโพ-เตาปูน ศูนย์รวมเมกะโปรเจคในอนาคต
1. รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย
มีเสียงยืนยันจาก “BEM-บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ” ในเครือ บมจ.ช.การช่าง ผู้รับสัมปทานเดินรถจะเร่งติดตั้งงานระบบของโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินช่วงต่อขยาย “บางซื่อ-ท่าพระ และหัวลำโพง-บางแค” ระยะทาง 27 กม.ให้เปิดบริการเร็วขึ้น จากกำหนดเดิมจะเปิดครบตลอดสายภายในเดือน มี.ค. 2563
ปัจจุบันงานก่อสร้างงานโยธา 4 สัญญา ณ สิ้นเดือน พ.ค. 2561 ที่ผ่านมา มีความคืบหน้าแล้ว 98.53% ส่วนงานติดตั้งระบบรถไฟฟ้าที่ “ช.การช่าง” เป็นผู้ดำเนินการมีความคืบหน้า 46.17%
อีกทั้งเร่งรัดการเปิดให้บริการเดินรถในช่วงสถานีหัวลำโพง-สถานีหลักสองให้เร็วขึ้น เป็นวันที่ 14 ส.ค. 2562 จากเดิมกำหนดภายในเดือน ก.ย. 2562 รวมถึงช่วงสถานีเตาปูน-สถานีสิรินธร ให้เร็วเป็นวันที่ 25 ธ.ค. 2562 จากแผนเดิมภายในเดือน มี.ค. 2563 และเร่งช่วงสถานีสิรินธร-สถานีท่าพระ ให้เร็วเป็นวันที่ 2 มี.ค. 2563 จากแผนเดิมภายในเดือน มี.ค. 2563 พร้อมกับติดตั้งระบบโครงข่ายโทรคมนาคมภายในสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน จำนวน 4 สถานี วงเงิน 248.56 ล้านบาท
อ่านรายละเอียดเพิ่มได้ที่ รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินช่วงต่อขยาย
2. สถานีกลางบางซื่อศูนย์กลางคมนาคมของกรุงเทพฯ
ปัจจุบันกำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง (Q2 2561)
image : one31.net
image : Render Thailand
สถานีกลางบางซื่อถูกสร้างขึ้นให้เป็นศูนย์กลางการเปลี่ยนถ่ายระบบคมนาคมทางรางที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน เนื่องจากเป็นสถานีที่มีรถไฟฟ้าผ่าน 4 สาย ได้แก่ สายสีแดงชานเมือง สายสีแดงอ่อน สายสีน้ำเงิน สายสีเขียว และนอกจากนั้นยังมีรถไฟฟ้าความเร็วสูงที่เชื่อมต่อจากภาคเหนือลงสู่ภาคใต้
และบริเวณโดยรอบสถานีมีการพัฒนาเป็น TOD (Transit Oriented Development) ที่รองรับประชากรที่เข้ามาได้มากขึ้นถึงสองล้านคน แบ่งพื้นที่ออกเป็น 4 โซน อย่างครบวงจร ทั้งแหล่งกินดื่ม พาณิชยกรรม สถานที่พักผ่อนหย่อนใจ โรงแรม รวมไปถึงสถานที่จัดประชุมสัมมนาทำให้บริเวณสถานีบางซื่อ เป็นแหล่งทำเลทองแห่งใหม่ที่น่าจับตามอง
จุดเชื่อมต่อ
Mixed-use Project
3. สัปปายะสภาสถาน การมาถึงของรัฐสภาแห่งใหม่
โครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่มีชื่อว่า “สัปปายะสภาสถาน” ด้วยความสวยงามของตัวสถาปัตยกรรมแล้ว ส่งเสริมให้อาคารสัปปายะสภาสถาน
เป็นแลนด์มาร์คใหม่ของริมแม่น้ำเจ้าพระยา นอกจากนั้นยังทำให้พื้นที่บริเวณจรัญสนิทวงศ์ได้รับอานิสงค์จากการพัฒนาพื้นที่นี้ด้วย เพราะรัฐสภาแห่งใหม่นั้นนำการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ ตามมา
ปัจจุบันการก่อสร้างคืบหน้าไปแล้ว 45% (ก.พ. 2561)
4. สะพานเกียกกาย
สะพานเกียกกาย เป็นโครงการที่ถูกเสนอขึ้นเพื่อรองรับอาคารรัฐสภาแห่งใหม่บริเวณเกียกกาย โดยออกแบบเป็นสะพานยกระดับและถนนต่อเชื่อมยกระดับขนาด 4-6 ช่องจราจร เชื่อมกับ ถ.พหลโยธินด้านกรมการขนส่งทางบก
ปัจจุบันกทม.กำลังขอใช้พื้นที่ทหารในโครงการและประมาณการค่าชดเชย อีกทั้งรอสำนักงานกฤษฎีกาเห็นชอบร่าง พ.ร.ฎ.เวนคืนที่ดิน และรออนุมัติรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA ) รวมถึงของบฯ ปี 2562 เพื่อก่อสร้าง
ออกแบบเป็นสะพานยกระดับและถนนต่อเชื่อมยกระดับขนาด 4-6 ช่องจราจร จุดเริ่มต้นอยู่ทางรถไฟสายใต้ ถ.จรัญสนิทวงศ์ ซ. 93-95 ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ผ่านวัดแก้วฟ้าจุฬามณี รัฐสภาแห่งใหม่ ถ.สามเสน ถ.ทหาร ถ.เตชะวณิช ถ.ประดิพัทธ์ วกเข้า ถ.เทอดดำริ ข้ามทางด่วนขั้นที่ 2 เข้า ถ.กำแพงเพชร ผ่าน อ.ต.ก. จตุจักร เชื่อมกับ ถ.พหลโยธินด้านกรมการขนส่งทางบก
5. ขยายถนนรอบรัฐสภาใหม่
1. ขยายถนนสามเสน – ประชาราษฎร์สาย 1
ขยายถนนเป็น 8 ช่องจราจร จึงมีความจำเป็นในการพิจารณา พื้นที่ที่จะถูกเวนคืนอย่างเหมาะสม โดยมีงบประมาณ 1,251 ลบ. แยกเป็นค่า ออกแบบ 5 ลบ. ค่าเวนคืน 1,104 ลบ. ค่าก่อสร้างขยายถนนเดิม 142 ลบ.
2. ขยายถนนทหาร
คือทางเข้าสู่พื้นที่รัฐสภาแห่งใหม่ทางด้านตะวันออก ต่อจากถ.ประดิพัทธ์ เป็นถนน 4 ช่องทางจราจร (ไป 2 กลับ 2) และมีทางเท้ากว้างประมาณ 2.5 ม. สองฝั่งถนนส่วนใหญ่เป็นแนวของต้นไม้และกำแพงของหน่วยงานทหาร
โดยถ.ทหารนี้จะถูกขยายเป็น 8 ช่องจราจรซึ่งจะเป็นทางขึ้นลงหลักของสะพานเกียกกาย โดยมีงบประมาณในการก่อสร้างและปรับปรุงถนนเป็นจำนวน 466 ลบ. แยกเป็น ค่าออกแบบ 3 ลบ. ค่าเวนคืน 396 ลบ.ค่าก่อสร้างขยายถนนเดิม 67 ลบ.
3. ก่อสร้างถนนคู่ขนานถนนสามเสน
การตัดถนนคู่ขนานถนนสามเสนขึ้นมาใหม่นี้เพื่อให้เชื่อมต่อกับถนนที่มีอยู่เดิมคือ ถ.กรุงเทพฯ-นนทบุรี (ประชาราษฎร์) บริเวณแยกเตาปูนเชื่อมกับถ.พิชัยบริเวณจุดตัดกับถ.อำนวยสงคราม
โดยมีงบประมาณ 1,817 ลบ. แยกเป็นค่าออกแบบ 10 ลบ. ค่าเวนคืน 1,497 ลบ. ก่อสร้างถนนใหม่ 310 ลบ.
6. Gateway บางซื่อ
ล่าสุด “Gateway บางซื่อ” หรือ ศูนย์การค้าเกตเวย์ แอท บางซื่อ ได้ประกาศเปิดตัว 6 พันธมิตรธุรกิจซึ่งเป็นแบรนด์ชั้นนำของเมืองไทยมาสร้างไฮไลท์ ประกอบด้วย ห้างบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์, โฮมโปร, เดอะ พาวเวอร์ ไลฟ์, เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์, ฟันเฟสต้า และบิวเทรี่ยม
“ณภัทร เจริญกุล” กรรมการผู้จัดการกลุ่มรีเทล บริษัท แอสเสท เวิรด์ รีเทล จำกัด ในเครือกลุ่ม TCC Land ให้ข้อมูลว่าโครงการ “Gateway บางซื่อ” นั้นใช้เงินลงทุนประมาณ 4,000 ล้านบาท มีขนาดความสูง 8 ชั้น บนที่ดินประมาณ 9 ไร่ มีพื้นที่ก่อสร้างประมาณ 100,000 ตร.ม. มีพื้นที่ปล่อยเช่ารวม 40,000 ตร.ม.หรือประมาณ 400 ร้านค้า และมีที่จอดรถ 1,200 คัน ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการปลายปี 2561
ที่มา : 362degree.com
คอนโดใหม่ล่าสุด
Chapter One Flow บางโพ
FACT
ชื่อโครงการ : แชปเตอร์ วัน โฟลว์ บางโพ Chapter One Flow Bangpo
เจ้าของโครงการ : บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท / Pruksa
ที่ตั้ง : ถนนประชาราษฎร์สาย 1 แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กทม. 10800
เนื้อที่ : 3-1-4.9 ไร่
จำนวนตึก : 1 อาคาร
จำนวนชั้น : 41 ชั้น
จำนวนห้อง : 385 ยูนิต
ลักษณะห้องและขนาดห้อง
1 Bedroom City View 31.80-32.85 ตร.ม.
1 Bedroom Exclusive River View 43.20-43.85 ตร.ม.
2 Bedrooms River View 49.65 ตร.ม.
2 Bedrooms Exclusive River View 64.75 ตร.ม.
พื้นที่ส่วนกลาง :
MAILBOX / MEETING ROOM
RENTAL STORAGE / LAUNDRY ROOM
RECREATION GARDEN / STUDY ROOM
PLAY YARD / PARTY ROOM
INFINITE EDGE POOL / LEISURE POOL
SKY LOUNGE / FITNESS & STEAM ROOM
ราคา :
City View ราคาเริ่มต้น 2.59 ล.บ. (เริ่ม 81,000 บาท/ตร.ม., เฉลี่ย 88,000 บาท/ตร.ม.)
River View ราคาเริ่มต้น 3.90 ล.บ. (เริ่ม 90,000 บาท/ตร.ม., เฉลี่ย 98,000 บาท/ตร.ม.)
หากจะให้พูดถึงคอนโดโครงการไหนน่าสนใจที่สุดในย่านบางโพ-เตาปูน เห็นจะเป็น CHAPTER ONE FLOW บางโพ ที่จะไม่พูดถึงไม่ได้แน่นอน
เพราะหลังจาก CHAPTER ONE SHINE บางโพ ที่เคยเปิดตัวและสร้างความสำเร็จในพื้นที่แห่งนี้มาแล้ว สามารถ Sold Out ไปได้เกือบหมดทั้งโครงการภายในระยะเวลาเพียงแค่ 2 เดือนเท่านั้น ( ซึ่งทาง REALIST ได้ไปสืบมาว่า ณ ปัจุบันเหลือเพียงแค่ 10 ห้องสุดท้ายแล้วเท่านั้น)
โดยโครงการใหม่ CHAPTER ONE FLOW บางโพ นี้ก็มีแนวโน้มที่จะขายได้อย่างรวดเร็วเช่นกันครับ
CHAPTER ONE FLOW บางโพ เป็นโครงการคอนโดที่เรียกได้ว่าได้วิวโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาที่สวยที่สุดในย่านบางโพแห่งนี้ เป็นรูปแบบ Fully-Furnished ที่ให้ Furniture พร้อมอยู่อย่างครบเซ็ต ใกล้ทางขึ้นทางด่วนศรีรัชใหม่ สะดวกในการเดินทางเข้า-ออกเมือง
อยู่ติดกับโรงเรียนโยธินบูรณะ ที่เด่นเรื่อง English Program และไม่ไกลจากโรงเรียนอื่นๆ อีกมากมาย เช่น โรงเรียนเซนต์คาเบรียล, โรงเรียนราชินีบน รวมถึง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ เพราะฉะนั้นการปล่อยเช่าให้นักศึกษาหรือซื้อเพื่อเก็งกำไรในย่านนี้ก็นับเป็นทางเลือกที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อยครับ
FACILITY
LOBBY FACILITY
Mailbox/ Meeting room/ Rental storage/ Laundry room ออกแบบสไตล์เรียบหรู ได้แรงบันดาลใจมาจากย่านค้าไม้บางโพ สะดวกด้วยห้องเก็บของขนาดใหญ่
GARDEN FACILITY
Recreation garden/ Study room and Play yard/ Party room สเน่ห์ของสายน้ำที่เคลื่อนไหวกลายเป็นแรงบันดาลใจในงานภูมิสถาปัตยกรรมเล่นระดับของสวนสีเขียวขนาดเกือบครึ่งไร่ ปลายสุดของสวนมี pavilion สำหรับจัดงานรื่นเริง สามารถมองเห็นได้ทั้งวิวสวนและน้ำไปพร้อมๆ กัน
SKY FACILITY
Two Oriented Pools (Infinite Edge Pool/ Leisure Pool) / Sky Lounge/ Fitness&Steam โดดเด่นด้วยสระว่ายน้ำแนวคิดใหม่ หนึ่งสระสองบรรยากาศที่มีขนาดถึง 20 เมตร ให้คุณได้เพลิดเพลินไปกับทัศนียภาพท่ามกลางพระอาทิตย์ตก และสระแช่ตัวที่จำลองบรรยากาศการว่ายน้ำให้มีความใกล้ชิดกับแม่น้ำพร้อมโอบล้อมด้วยสวนและโดดเด่นที่ปลายของสระสามารถมองเห็นวิวของแม่น้ำได้
DROP-OFF
LOBBY
SKY FACILITY
RECREATION GARDEN
SKY LOUNGE
PLAY YARD
1 BEDROOM CITY VIEW
1 BEDROOM EXCLUSIVE RIVER VIEW
2 BEDROOMS EXCLUSIVE RIVER VIEW
Sale Gallery เปิดให้เข้าชมได้ตั้งแต่วันที่ 10 สิงหาคมเป็นต้นไป
ลงทะเบียนรับส่วนลดพิเศษ 100,000 บาท*
http://bit.ly/2J8USEt
สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
http://bit.ly/ChapterOneCondo